ตาแห้ง ตอนที่ 2
อาการไม่สบายตาต่างๆ จากภาวะตาแห้ง น่าจะเกิดจาก
- การที่น้ำตามี osmolarity ที่สูงขึ้น ในภาวะตาแห้ง กระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ซึ่งจะมีการปล่อยสารเคมี cytokine ทำให้เกิดภาวะ apoptosis (การตายของเซลส์) ของชั้น epithelium ของเยื่อบุตาและกระจกตา, goblet cell ในเยื่อบุตาที่มีหน้าที่สร้างน้ำตาชั้น mucin คือทำอันตรายต่อเซลส์ผิวตา
- Tear instability การทรงตัวของน้ำตาไม่ดี มีการแตกตัวเร็ว ก่อให้เกิดการอักเสบได้เช่นกัน ทั้ง epithelium และ goblet cell ของผิวตาถูกทำลาย
กล่าวคือ การมี osmolarity สูงก่อให้เกิดความผิดปกติดังกล่าว จะนำไปสู่ tear instability และขณะเดียวกัน น้ำตาที่แตกตัวเร็ว นำไปสู่ค่า osmolarity ที่เพิ่มขึ้น หรือนัยหนึ่ง อุบัติการณ์ทั้ง 2 เสริมซึ่งกันและกัน
อาการตาแห้งมีตั้งแต่เป็นเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงมาก Delphi ได้ให้ classification ของอาการตาแห้งไว้ดังนี้
- มีอาการเล็กน้อย เป็นบางครั้ง โดยมักเป็นเวลา มีปัจจัยกระตุ้น เช่น พัดลมเป่า ใช้คอมพิวเตอร์นานเกินไป พอพักสายตาสักครู่อาการก็หาย ไม่จำเป็นต้องถึงกับพักงาน กรณีนี้การตรวจอาจไม่พบสิ่งผิ ดปกติเลย
- อาการปานกลาง เป็นบางครั้ง แต่เรื้อรัง มีอาการแม้ไม่มีอะไรกระตุ้น ต้องลดกิจกรรมที่ทำประจำลง ต้องละหรือพักสายตาสักครู่ ในกลุ่มนี้อาจตรวจตาไม่พบสิ่งผิดปกติ หรือมีตาแดงเล็กน้อย ตรวจ TBUT และ Schirmer’s ได้น้อยกว่า 10
- ค่อนข้างรุนแรง มีอาการต่อเนื่อง มีกจะมีอาการตามัวลงด้วย ต้องลดกิจกรรมประจำ ตามักจะแดง ตรววจหาความผิดปกติของผิวกระจกตาพบ superficial punctate keratitis หรือบางรายพบ filament keratitis ผู้ป่วยกลุ่มนี้ตรวจมักจะพบ TBUT และ Schirmer’s น้อยกว่า 5
- อาการรุนแรง มีผลต่อการดำรงชีวิต ต้องหยุดพักงาน มักจะมีตาแดง ตามัว ผิว epithelium หลุด มักจะมีขี้ตาเป็นเมือก หรือบางคนออกเป็น filament มีลักษณะ meibomian gland dysfunction บางคนมีขนตาเก การตรวจ TBUT และ Schirmer มักจะมีค่าน้อยกว่า 2
ความรุนแรงระดับต่างกัน ทำให้การรักษาแตกต่างกัน